จิตอาสาฯนครพนม บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันจักรี

  วันที่ 6 เมษายน 2564 ที่บริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานนำคณะหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสาจังหวัดนครพนม ร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยการพัฒนาศาสนสถาน ปรับปรุงภูมิทัศน์ กำจัดวัชพืช เก็บกวาดขยะ ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อมหาจักรีบรมวงศ์ ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอันน้อยใหญ่นานัปการเพื่อพสกนิกรชาวไทย เนื่องในวันจักรี ซึ่งเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เสด็จปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์สมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกแห่งราชวงศ์จักรี เป็นปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ที่ได้ทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 โดยทรงปกครองปวงชนชาวไทยให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เป็นแบบอย่างที่พระมหากษัตริย์ไทยในพระบรมราชจักรีวงศ์ ได้ทรงเจริญรอยตามพระยุคลบาทสืบต่อกันมาโดยลำดับ และด้วยพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว ในปี พ.ศ. 2416 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 4 พระองค์ ได้แก่ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อประดิษฐานไว้ให้พระมหากษัตริย์องค์ต่อมา พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ และประชาชนได้ถวายบังคมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติปีละครั้ง และโปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญไปประดิษฐานไว้บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ซึ่งมีการย้ายสถานที่ในการประดิษฐานหลายครั้ง เช่น พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท และพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาท ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้ย้ายพระบรมรูปมาไว้ ณ ปราสาทพระเทพบิดรในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พร้อมกับพระบรมรูปของรัชกาลที่ 5 พระบรมชนกนาถ จนกระทั่งในเดือนเมษายน พ.ศ. 2461 การซ่อมแซมก่อสร้างและประดิษฐานพระบรมรูปทั้ง 5 รัชกาล จึงสำเร็จลุล่วง และได้มีพระบรมราชโองการประกาศตั้งพระราชพิธีถวายบังคมพระบรมรูป ในวันที่ 6 เมษายน ในปีนั้น และต่อมาโปรดฯ ให้เรียกวันที่ 6 เมษายน ว่า วันจักรี

โดยสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าในพระบรมราชจักรีวงศ์แต่ละพระองค์ ล้วนทรงพระปรีชาสามารถในพระราชกิจที่เหมาะสมแก่กาลสมัย เริ่มตั้งแต่พระปฐมกษัตริย์ได้ทรงปลูกฝังความมั่งคั่งให้แก่ราชอาณาจักรไทย รัชกาลในลำดับต่อมาก็ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองด้วยการสร้างสรรค์วัฒนธรรมทุกสาขา ทรงเชิดชูพระบวรพุทธศาสนาและสั่งสมความมั่งคั่งสมบูรณ์แก่ประเทศสืบช่วงกันตามลำดับ ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยิ่งตระหนักชัดในดวงจิตของพสกนิกรชาวไทย พระองค์ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจครองแผ่นดินด้วยความเป็นธรรม ทรงนำความเรียบร้อย ร่มเย็น มาสู่อาณาประชาราษฎร์ ตราบจนรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ในการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎร ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ที่ทรงพระราชกรณีกิจที่ก่อให้เกิดประโยชน์นานับประการแก่ประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย


image รูปภาพ
image
image
image
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar