ข้อดีข้อเสียกู้หนี้ในระบบ VS นอกระบบ

ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง หรือด้วยความจำเป็นทางการเงินบางประการ ทำให้คุณอาจมีความต้องการกู้หนี้ยืมสินขึ้นมา โดยการกู้เงินนั้น มีทั้งที่เป็นเงินกู้ในระบบ และเงินกู้นอกระบบ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนได้รู้ข้อดีและข้อเสียในการกู้หนี้ทั้ง 2 แบบ โดยเงินกู้ในระบบ คือ การกู้ยืมเงินผ่านสถาบันการเงิน ไม่ว่าจะเป็นการไปกู้เงินที่ธนาคารด้วยตัวเอง การใช้เงินจากบัตรเครดิต การขอสินเชื่อบ้าน และสินเชื่อรถ ซึ่งหนี้ในลักษณะนี้ กฎหมายจะมีการรับรองว่ามีการกู้หนี้ยืมสินจริง มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เป็นไปตามกฎหมาย สามารถขอเจรจาเพื่อประนอมหนี้ได้ มีการเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นความลับตามที่กฎหมายกำหนด แต่ผู้กู้ทำผิดสัญญา ไม่ยอมผ่อนชำระหนี้ตามที่กฎหมายกำหนด ย่อมถูกดำเนินคดีแพ่งได้

ส่วนเงินกู้นอกระบบ คือ เงินกู้ที่มีลักษณะตรงข้ามกับเงินกู้ในระบบทุกอย่าง กล่าวคือ เป็นการกู้เงินที่ไม่มีการรับรองจากกฎหมาย มีลักษณะเป็นการยืมเงินปากเปล่า หรือมีการบันทึกข้อความ สัญญาไว้เป็นหลักฐานก็ได้ ตัวอย่างของเงินกู้นอกระบบ เช่น พวกเงินด่วนทั้งหลายที่มีการแปะประกาศตามรั้ว ตามเสาไฟฟ้า หรือมีการบอกต่อกันแบบปากต่อปาก หรือเป็นการปล่อยกู้กันเองในกลุ่มคนรู้จัก รวมถึงสื่อตามอินเทอร์เน็ตต่างๆ ที่ไม่ได้มีการรับรองตามกฎหมาย ไม่มีอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้กำหนด (ซึ่งเป็นอัตราที่สูงมาก)และมักคิดในอัตราที่สูงต่อเดือน มีขั้นตอนในการขอกู้ที่ง่ายกว่า รวบรัดกว่า ได้เงินเร็วกว่า บางทีเดินเข้าไปหาแหล่งเงินกู้ด้วยบัตรประชาชนเพียงอย่างเดียว ก็สามารถขอกู้และรับเงินได้ทันที ไม่สามารถประนอมหนี้ได้ หากผิดนัดชำระหนี้ บางรายอาจมีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้กู้ได้ เงื่อนไขสัญญาต่อลูกหนี้ ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้เป็นผู้กำหนด บางครั้งอาจไม่มีสัญญาการกู้เงิน ไม่มีการออกหลักฐานการชำระเงิน ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าได้ชำระหนี้ไปเท่าไหร่แล้ว ทำให้ลูกหนี้เสียเปรียบ

ดังนั้นใครที่คิดจะกู้หนี้ก็ขอให้คิดให้ดี โดยที่ผ่านมารัฐบาลเร่งแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนมาอย่างต่อเนื่อง เช่น มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ ของกระทรวงยุติธรรมที่ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงิน ทั้งของรัฐและเอกชน ดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้ตั้งแต่เดือน ก.พ. 65 เป็นต้นมารวม 77 ครั้ง ใน 77 จังหวัด ช่วยเหลือประชาชนทั้งสิ้น 78,520 คน ทุนทรัพย์รวมกว่า 19,487 ล้านบาท ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี ค่าธรรมเนียมศาล ค่าทนายความมากถึง 5,905 ล้านบาท


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar