พระธาตุพนม

พระธาตุพนม เป็นศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางพุทธศาสนาของนครพนมมาแต่โบราณกาล โดยสร้างขึ้นเมื่อต้นพุทธกาลประมาณ พ.ศ.๘ ในสมัยอาณาจักรศรีโคตรบูร ประดิษฐานอยู่บนภูกำพร้า ตั้งตระหง่านอยู่ที่ริมฝั่งโขง บริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม ซึ่งตามตำนานอุรังคนิทานกล่าวว่าพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งพระอานนท์ได้เสด็จมาประทับพักแรมที่ภูกำพร้า โดยทางอากาศ และได้พยากรณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา ทั้งได้ตรัสกับพญาอินทร์ว่าตามประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า  และเมื่อพระพุทธองค์เสด็จปรินิพพาน พระมหากัสสปะและพระอรหันต์ 500 องค์ ได้นําพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ในองค์พระะธาตุที่ท้าวพญาผู้ครองนครทั้ง 5 ได้เป็นประธานสร้างถวาย และมีพุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ ทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงเดินทางมานมัสการ กราบไหว้บูชา ขอพรกันอยู่เสอ ด้วยมีความเชื่อสืบต่อกันมาจากบรรพบุรุษว่าเป็นพระธาตุประจำวันเกิดผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดผู้ที่เกิดปีวอก หากใครได้มานมัสการพระธาตุครบ 7 ครั้ง จะถือว่าเป็น "ลูกพระธาตุ” เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและจะมีความเจริญรุ่งเรือง หรือแม้แต่การได้มากราบพระธาตุพนม 1 ครั้ง ก็ถือเป็นมงคลแก่ชีวิตแล้ว และทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 3 ถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี

โดยองค์พระธาตุพนมได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง กระทั่งวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.39 น. ได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากมีฝนตกหนัก พายุพัดแรงติดต่อกันหลายวัน ประกอบกับอง์พระธาตุมีความเก่าแก่ ซึ่งประชาชนทั้งประเทศได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นมาใหม่ครอบฐานองค์เดิมและยังคงรักษาสถาปัตยกรรมเดิมไว้ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 จึงได้มีพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในองค์พระธาตุเช่นดั่งเดิม นอกจากนี้ยังมีของมีค่าอีกมากมายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุที่มีน้ำหนักมากถึง 110 กิโลกรัม


image รูปภาพ
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar